หลักการpresent นำเสนอผลงานให้ดูดี

presentation

การเตรียมตัว

  • ใช้วิธีเขียนสิ่งที่ต้องพูด เพื่อจัดกระบวนการคิด การพูด
  • ควรมีจุดให้ผู้ฟังจำไม่เยอะเกินไป เพราะถ้าเยอะมากจะจำไม่ได้ ขอเน้นๆ 1 หรือ 2 พอ ส่วนขอรองอาจมีได้อีก 2-3 ข้อ มากกวานี้จะจำยากแล้ว
  • ประเมินและวิะเคราะห์ว่าผู้ฟังคือใคร เค้าต้องการทราบเรื่องอะไร ตรงนี้แหล่ะสำคัญที่สุดเพราะเป็นจุดเริ่มต้นทุกอย่าง
  • คนฟังอยากได้อะไร ต้องตอบโจทย์เค้า ต้องปิดจุดกังวลของผู้ฟังด้วย และคาดการณ์คำถามที่จะถูกถามด้วย
  • การซ้อมสำคัญมากๆๆ อันนี้อยากย้ำ
  • การแต่งตัว, บุคลิกภาพ มีผลต่อความน่าเชื่อถือ ให้แต่ตัวตามความเหมาะสมในงานการนำเสนอ
  • เวลาในการการนำเสนอ 10:80:10 open 10, เนื้อหา 80, ปิด 10
  • ลำดับการนำเสนอ
    • 1.กล่าวทักทาย  สวัสดีค่ะ
    • 2.แนะนำตัว ผมชื่อ ตำแหน่ง จากไหน (สร้างความน่าเชื่อถือ)
    • 3.บทนำและผลลัพธ์ เรียบเรียง  Why,How,What    Consequence    Benefit
    • 4.หัวข้อที่จะนำเสนอ
  • Why หลักการที่สำคัญ ที่ต้องคำนึงถึง,  ความผิดพลาดที่เคยเกิด, อาจจะเกิด, ประสบการณ์, ผลวิจัย,  ปัญหาในอดีต / ปัจจุบัน / อนาคต
  • How ทางออก ทางแก้ไข ที่ช่วยให้แก้ปัญหาได้ เป็นไปตามหลักการ ตอบโจทย์ได้
  • What บอกเรื่องที่จะนำเสนอ
  • Consequence  ระบุผลลัพธ์ ที่ผู้เสนอต้องการจากผู้ฟัง เช่น  เพื่อนำเสนอให้ท่าน…….
  • Benifit ผลประโยชน์ที่ผู้ฟังจะได้รับ ผลกระทบทางลบหากไม่ทำ

 

ตัวไฟล์ Presentation

  • ต้องเน้นรูปภาพ อย่ามีอักษรเยอะ ไม่งั้นคนฟังจะเบื่อเร็วและไม่สนใจ
  • คนจะอ่านสไลด์ในหน้านั้นเสร็จแล้วถึงตั้งใจฟัง สมาธิตอนสไลด์มาจะไปอยู่ที่การอ่านสไลด์ก่อน ฉะนั้นสไลด์ไม่ควรอักษรหรือเนื้อหาเยอะ
  • 1 slide 1 ประเด็น , ไม่เกิน 5 บรรทัด

 

ภาษากาย

  • การยืนให้ยืนเต็มสองขา ถ้ายืนเน้นขาเดียวจะดูตัวเอียงไม่สง่า
  • อย่ายืนเกาะอะไร
  • อย่ายืนล้วงกระเป๋า เพราะแสดงถึงความไม่มั่นใจ
  • อย่ากอดอกเด็ดขาด
  • อย่ายืนกุมไข่ เพราะจะไหล่ห่อ ให้มือข้างนึงจับเหนือข้อมือ จะดูดีกว่า
  • สบตาผู้ฟัง หากไม่กล้ามอง ให้มองหน้าผากคนฟังแทน ต้องทำบ่อยๆด้วย ไม่งั้นคนดูจะเริ่มออกห่าง
  • ถ้าตื่นเต้นก็ต้องยอมรับ(ในใจ)ว่าตื่นเต้น หายใจเข้าออกลึกๆ และให้ซ้อมมากๆๆ จะช่วยลดความผิดพลาดอื่นๆลง
  • อย่ามอง slide present หรือ note บ่อยครั้งเกินไป
  • ตำแหน่งการยืนให้ มองเห็นผู้ฟังเยอะที่สุด
  • การยืนจะทรงพลังกว่าการนั่ง present การนั่งจะดูไม่สง่า

 

ระหว่างpresent

  • เปิดตัวดีจะทำให้ผู้ฟังสนใจติดตามฟัง  ต้องทำให้คนฟังรับรู้ภายใน 3 นาที เข้าใจปัญหาของผู้ฟัง หรือที่ผู้ฟังสนใจ, แสดงออกให้เกียรติ
  • เริ่มต้นแนะนำตัว แล้วจากนั้นก็ควรมีช่วงที่บอกว่าอยากให้ผู้ฟังได้อะไรกลับไป
  • คนพูดต้องมีความมั่นใจ ถ้าคนพูดไม่มั่นใจ คนฟังจะไม่เชื่อถือ อย่าทำตัวหงอเด็ดขาด
  • ให้นำเสนอให้เป็นลักษณะ “การเล่าเรื่อง” ทำได้โดยการเตรียมข้อมูลให้มาก ต้องซ้อมพูดเยอะๆ
  • กรณีขณะนำเสนอ มีคน “พูดซุบซิบ คุยกัน เสียงดัง” ให้หยุดนำเสนอแป๊ปนึง บรรยากาศจะเงียบ คนเม๊าจะหยุดเม๊า  (แต่อย่ามองหน้าคนเม๊านะไม่งั้นมันจะดูไม่เป็นมิตร) แล้วเราค่อยนำเสนอต่อ
  • ต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้ทุกสถานการณ์ ห้ามต่อล้อต่อเถียงกับผู้ฟังเด็ดขาด
  • ดึงผู้ฟังให้มีส่วนร่วม เช่น  “พี่ๆเคยได้ยิน….ไหมครับ” (ต้องค่อนข้างแน่ใจว่าส่วนใหญ่จะเคย)
  • ให้โฟกัสจุดที่ต้องการให้คนฟังจะเห็นผลบวก, ลบ, กระทบกับเค้าบ่อยๆ เค้าจะสนใจ
  • จากากรวิจัยพบว่า ผู้ฟังจะจดจ่อใน 10 นาทีแรก ถ้าทำได้ ให้เปลี่ยนจังหวะการพูด หรือมีเรื่องราวอะไรน่าสนใจแทรก, ให้ถามย่อย
  • บอกว่าผู้ฟังควรทำอะไร แล้วจะได้อะไร มีผลอะไร
  • อะไรสำคัญพูดบ่อยๆ เช่น เรื่อง “ลด cost”  นำเสนอไป “นี่ไงครับ ช่วยลด cost”,   “ตรงนี้ก็มีส่วนในการช่วยลด cost ตามจุดมุ่งหมายเหมือนกัน”
  • ต้องการเน้นตรงไหนก็ต้องเน้นเสียงด้วย เช่น เสียงยาว หนักแน่น หรือเรียกความสนใจ

 

ช่วงผู้ฟังถามคำถาม

  • ถ้าเนื้อหาเยอะ ให้รวมถามตอนจบ, หรือตอนจบบท (จะได้ไม่นานจนลืม)
  • ถ้าเนื้อหาไม่มาก เวลาเยอะ ให้ถามระหว่างการ present ได้

 

ถามผู้รับฟัง

  • อย่าถามคำถามยาก ไม่งั้นคนฟังจะ dead air จะเงิบกันหมด
  • ตอนเปิดประเด็นด้วยคำถาม “คุณรู้ หรือไม่ครับ ว่า…” , “คุณรู้จักหรือไม่ครับว่า….”  ต้องแน่ใจว่าคนในห้องที่ฟังเป็นมิตร

 

บุคลิกระหว่างการนำเสนอ

  • ตำแหน่งที่ยืน และการกลับตัวไปมา ระวังมากไปจะดูไม่นิ่งและรำคาญตา
  • อาจปรับเปลี่ยนตำแหน่งยืน เพื่อชี้ pointer

 

ตอนปิด

  • ขอขอบคุณ……ที่มาฟังเรื่อง……..  และท้ายนี้…………… (อาจจะย้ำเรื่องประโยชน์ที่ได้จากการฟัง หรืออยากให้ผู้ฟังได้)